รสหวานเป็นรสที่อร่อยและคนทั่วไปมักติดความหวานในอาหาร และเครื่องดื่มต่างๆ ทำให้สมองแจ่มใส และลดความเครียด จนมักจะทำให้พวกเรากินน้ำตาลเกินความต้องการของร่างกาย และถ้าน้ำตาลในเลือดต่ำลงจากปริมาณที่เคยบริโภคในแต่ละวัน ก็เริ่มส่งผลต่ออารมณ์ เช่น ทำให้หงุดหงิด และอ่อนเพลียง่าย
ภาวะการติดน้ำตาล จะก่อให้เกิดโรคร้ายชัดเจนถึง 4 โรค
1. ฟันผุ
2. อ้วน
3. เป็นโรคหัวใจ ความดัน
4. มะเร็ง
วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการลดระดับน้ำตาลที่ต้องบริโภคในแต่ละวันกันค่ะ
1️⃣ เปลี่ยนเครื่องดื่ม
ตัดน้ำอัดลมทิ้งไปเลยค่ะ ในเวลาที่กระหายน้ำ ลดเครื่องดื่มชูที่กำลังจะทานระหว่างออกกำลังกาย แล้วเปลี่ยนไปเป็นดื่มน้ำแร่แทน ลดกาแฟที่ใส่นมข้นในยามเช้า ดื่มน้ำมะนาว ชาสมุนไพร หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลแทน
2️⃣ ลดอาการติดน้ำตาลอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เมื่อร่างกายคุณเสพน้ำตาลจนเคยชินแล้ว และถ้าคุณตัดขาดจากของหวานที่เคยชอบกินเช่น เค้ก ไอศครีม คุกกี้ พาย โดนัท ทันที คุณจะรู้สึกเหมือนร่างกายไม่มีพลังงานและรู้สึกเฉื่อยชา ดังนั้นคุณอาจทนแทนด้วยการทานผลไม้ที่มีรสหวานไม่มาก เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง และผลไม้ตระกูลเบอรี่ มีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยให้ร่างกายคุณสดชื่นขึ้นอีกด้วย
3️⃣ อาหารไขมันสูงอาจดีต่อสุขภาพมากกว่าอาหารไขมันต่ำ
ถ้าคุณพยายามจะลดน้ำตาล คุณควรเลือกทานอาหารที่มีไขมันดี เช่น อโวคาโด มันม่วง มันหวาน ฟักทองนึ่ง เป็นต้น หรืออาหารที่มีคาโบไฮเดรตเชิงซ้อน จริงๆ แล้วไขมัน เป็น 1 ในสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถ้ารับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจะอยู่ท้องเป็นเวลานาน อาหารและเครื่องดื่มหลายชนิดที่มีฉลากปิดว่า fat-free เมื่อนำมาทดสอบแล้วกลับพบว่า มีปริมาณน้ำตาลสูงกว่าอาหารที่มีไขมันดีเสียอีก
4️⃣ รับประทานอาหารออร์แกนิก หรืออาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป
อาหารปรุงสำเร็จ หรืออาหารตามร้านอาหาร อาจจะเต็มไปด้วย เกลือ น้ำตาล และผงชูรส ในปริมาณที่มาก ทำให้เราไม่อาจควบคุมได้ อาหารที่ผ่านการแปรรูปมักจะแต่งสี กลิ่น และสารกันบูด และหากคุณสามารถทำอาหารกินเองที่บ้าน นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังช่วยให้คุณสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลและเกลือในอาหารได้
5️⃣ อย่าประมาทกับคำว่า “ขนมเพื่อสุขภาพ”
รู้หรือไม่ว่าขนมที่ทำจากธัญพืช เช่น กราโนลาแท่ง โปรตีนแท่ง และผลไม้อบแห้ง ในบางครั้งก็มีปริมาณน้ำตาลสูงพอๆ กับการกินช็อคโกแลต 1 แท่งเลยนะ
6️⃣ ลดอาหารเช้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาล
พวกซีเรียลที่เคลือบน้ำตาล แพนเค้กราดน้ำผึ้ง พาย วาฟเฟิล ขนมปังกับแยม ครัวซอง และมัฟฟิน เป็นอาหารสุดโปรดที่ผู้คนชอบรับประทานร่วมกับกาแฟในยามเช้า แต่อาหารเช้าเหล่านี้แหละเป็นเหตุให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูง ดังนั้น อาหารเช้าทางเลือกใหม่ที่ควรเปลี่ยนเพื่อสุขภาพได้แก่ กรีกโยเกิร์ต ไข่ต้ม ไข่คน ไข่ดาวน้ำ หรือไข่ที่ทอดบนกระทะเทฟล่อนแบบไม่ใช้น้ำมัน หรือกินอะโวคาโด ที่มีพลังงานสูง มีไขมันที่ดี และมีน้ำตาลต่ำก็ได้
7️⃣ ส่วนผสมข้างฉลากที่ควรหลีกเลี่ยง
คุณไม่ควรเลือกอาหารอย่างฉาบฉวยในซุปเปอร์มาเก็ตเพียงแค่เห็นคำว่า “low sugar” หรือ “no sugar” แต่คุณจะต้องสังเกตส่วนผสมเหล่านี้ ซึ่งอันตรายเท่าๆกับน้ำตาล แต่ใช้คำที่ยากต่อการสังเกต เช่น
– น้ำเชื่อมข้าวโพด (High-fructose corn syrup)
– มัลโตส (Maltose)
– เด็คโตรส (Dextrose)
– น้ำเชื่อมข้าว (Rice syrup)
– คาราเมล (Caramel)
– สารให้ความหวานแทนน้ำตาล (Invert sugar)
– น้ำเชื่อม (Molasses)
8️⃣ สิ่งที่ให้ความหวานตามธรรมชาติ
ภาวะเสพติดน้ำตาล ไม่ต่างจากความรู้สึกของคนติดแอลกอฮอล์เลยล่ะค่ะ เราถึงต้องใช้ความอดทนสูงมากในช่วงเวลาที่ขาดน้ำตาล เพื่อบรรเทาความรู้สึกนี้ ลองใช้ความหวานตามธรรมชาติในการทำเครื่องดื่ม หรือปรุงอาหารแทน การลดความหวานบางครั้งทำให้รู้สึกหงุดหงิด หิว กระวนกระวาย จึงไม่ควรลดแบบหักโหม คุณสามารถรับประทานอาหารที่มีรสหวานได้ตามเดิม เพียงแค่เปลี่ยนมาใช้ สารให้ความหวานอื่นๆ แทนได้
9️⃣ อย่าเก็บขนมหวานไว้ในบ้าน
ในยามที่ความอยากน้ำตาลเพิ่มขึ้น สมองของเราที่เคยชินกับการรับปริมาณน้ำตาลทุกวันจะสั่งการให้คุณรีบไปหาอะไรหวานๆ มากิน ดังนั้นอย่าซื้อพวกช็อคโกแลต ไอศครีม หรือลูกอมมาเก็บไว้ เพราะถ้าเห็นเข้าก็จะโดนความหิวเข้าจู่โจมทันที หากคุณทนไม่ไหวจริงๆ ก็ลองหาขนมที่มีความหวานต่ำ หรือขนมที่ไม่มีแคลอรี่มากินแทน
🔟 นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนน้อย หรืออดนอน ส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ทำให้เป็นโรคซึมเศร้า และภูมิต้านทานต่อโรคภัยต่ำ สมาธิสั้น ประสิทธิภาพในการทำงานจึงลดลง แถมกลุ่มคนที่อดนอนยังมีความรู้สึกหิว กระหาย และอยากกินของหวานมากกว่ากลุ่มที่นอนเพียงพอ ดังนั้นการเข้านอนเร็ว และนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยให้คุณลดความรู้สึกอยากกินของหวาน และช่วยให้สมองลดความต้องการน้ำตาลลงได้
ลองมาลดการบริโภคน้ำตาลให้น้อยลงในแต่ละวัน เพราะน้ำตาลเป็นอาหารที่ส่งผลให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ตามมา ทั้งมะเร็ง เบาหวาน โรคอ้วน แต่การไม่รับประทานน้ำตาลเลย ไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้อง ในทางที่ดีเราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหมั่นออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย เราจะได้มีสุขภาพที่ดี และแข็งแรงค่ะ
💡คิดถึงงานวิจัย คิดถึง Survey Market Thailand
🎯 สนใจทำวิจัยการตลาด ติดต่อ หรือ ปรึกษาเราได้ตามช่องทางด้านล่างนี้นะคะ :
📱Tel : คุณเรด 065-387-5499 / คุณปลา 096-140-4854
💬 Line : https://lin.ee/1WIknkQ
✉️ Email : surveymarketthailand@gmail.com
🌐 Website : https://surveymarketthailand.co.th
#วิจัยออนไลน์ #วิจัยการตลาด #บริการด้านวิจัยตลาด #รับทำวิจัยภาคสนาม
#รับแผนการตลาด #บริการการตลาดออนไลน์ #การตลาดออนไลน์ #Surveymarket
#Businessplan2023 #รับทำการตลาดออนไลน์