ตอนนี้ประเทศไทยของเรา ได้เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งหน้าฝนนี้ มีอะไรที่เราต้องระวังบ้าง มาดูกันเลย
1. โรคไข้เลือดออก พบการระบาดบ่อยในหน้าฝน เกิดจาก “ยุงลาย” เป็นพาหะ และในแต่ละปีมีมีการติดเชื้อจำนวนมาก รวมถึงการเสียชีวิต อาการของโรคไข้เลือดออกที่พบได้ชัดเจนคือไข้สูงเฉียบพลัน เบื่ออาหาร หน้าแดง ปวดศีรษะ อาเจียน มีผื่นแดงขึ้นตามแขนขาลำตัว หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ อาการไข้จะลดลงอย่างรวดเร็ว และมีภาวะช็อกเกิดขึ้น มีอาการตับโต สังเกตได้จากการกดแล้วรู้สึกเจ็บบริเวณชายโครงขวา
การป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ดีที่สุดคือระวังตนเองไม่ให้ยุงกัด ดูแลรักษาบ้านให้สะอาดปลอดโปร่งเพื่อไม่ให้ยุงลายพักอาศัย ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ อยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อับชื้น มีแสงสว่างเพียงพอ หากมีไข้สูงเฉียบพลันให้รีบพบแพทย์ทันที
2. โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร นอกจากจะพบได้บ่อยในหน้าร้อนแล้ว ในหน้าฝนนี้ก็พบโรคนี้ได้เช่นกัน ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำ ที่มีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส อาหารที่ปรุงไม่สุก หรือ อาหารที่ค้างไว้นานหลายชั่วโมง ผู้ที่ได้รับเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง มีอาการสูญเสียน้ำภายใน 1 – 2 วัน หรือภายในไม่กี่ชั่วโมง อยู่ที่ชนิด ประเภท ปริมาณของเชื้อโรค หากพบอาการรุนแรงขึ้น เช่น ท้องเสียมาก อาเจียนมาก มีเลือดปนในอาเจียนหรืออุจจาระ แขนขาอ่อนแรง หากปวดท้องอย่างรุนแรงร่วมกับมีไข้สูง ควรรีบพบแพทย์ทันที ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจทำให้ร่างกายเสียน้ำและเกลือแร่จนเป็นอันตรายได้
วิธีป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินอาหาร คือการปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนที่ทั่วถึง แสะสะอาด ล้างผัก ผลไม้ ให้สะอาดด้วยน้ำหลายๆ ครั้ง ควรแยกมีดและเขียงสำหรับหั่นอาหารสุกและอาหารดิบออกจากกัน ล้างมือทุกครั้งก่อนกินอาหารเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจติดมากับฝ่ามือ
3. โรคมือเท้าปาก เป็นฤดูที่ระบาดของโรคนี้ได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะชั้นอนุบาล ติดจากเชื้อไวรัส ที่แพร่ผ่านทางระบบทางเดินอาหารและการหายใจ สามารถติดต่อโดยตรงจากการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย และอุจจาระของผู้ป่วย โรคนี้มีระยะฟักตัว 3-7 วัน พบเชื้อทางน้ำลาย 2-4 วัน ก่อนมีอาการ จนถึง 1-2 สัปดาห์หลังมีอาการ ผู้ติดเชื้อจะเริ่มแสดงอาการป่วย เริ่มด้วยมีไข้ตํ่าๆถึงไข้สูง อ่อนเพลีย ต่อมา มีอาการเจ็บปาก กลืนนํ้าลายไม่ได้ และไม่ยอมทานอาหารเนื่องจากมีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ดังนั้นอย่าให้เด็กมีไข้สูงเกินไป เพราะอาจจะชักได้
การป้องกันโรคมือเท้าปาก สามารถทำได้โดยการล้างมือบ่อยๆ และล้างทุกครั้งก่อนกินอาหาร ไม่ใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า และควรใช้ช้อนกลางในการตักอาหาร หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดและมีผู้คนพลุกพล่าน เช่น สนามเด็กเล่น ห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรคนี้
4. โรคตาแดง เป็นฤดูที่พบการระบาดของโรคตาแดง หรือโรคตาอักเสบพบได้บ่อย มากกว่าฤดูอื่นๆ เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตา จากการติดเชื้อไวรัส ติดได้โดยตรงจากการสัมผัสน้ำตาของผู้ป่วยที่ติดมากับนิ้วมือ และแพร่จากนิ้วมือมาติดที่ตาโดยตรง ไม่ติดต่อทางการสบสายตา หรือการรับประทานอาหารร่วมกัน
การป้องกันโรคตาแดง สามารถทำได้ด้วยการล้างมือด้วยน้ำสบู่ให้สะอาดอยู่เสมอ ถ้ามีฝุ่นละออง หรือน้ำสกปรกเข้าตา ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที อย่าปล่อยให้แมลงหวี่ หรือแมลงวันตอมตา เมื่อเกิดมีอาการตาแดงขึ้น ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากจักษุแพทย์ ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง
5. โรคผิวหนัง ความอับชื้นที่มาพร้อมกับสายฝนอาจก่อให้เป็นผื่นผิวหนังได้ หากไม่ดูแลรักษาความสะอาดให้ถูกวิธีจะทำให้เกิดโรคผิวหนังจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา รวมถึงผิวหนังอักเสบได้ โดยโรคผิวหนังที่พบบ่อยในหน้าฝน ได้แก่ โรคน้ำกัดเท้า ผื่นผิวหนังอักเสบจากการติดเชื้อรา ผื่นผิวหนังอักเสบจากแมลง
เราป้องกันโรคผิวหนังในหน้าฝนนี้ ด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำสกปรกโดยตรง หรือใส่รองเท้าบูทยางเมื่อต้องเดินลุยน้ำท่วมขัง หากเปียกฝนควรรีบทำความสะอาดร่างกาย อาบน้ำ หรือเช็ดตัวให้แห้ง ไม่ปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะความอับชื้นเป็นปัจจัยให้ผิวไวต่อเชื้อแบคทีเรีย และแพ้ง่ายขึ้น
6. โรคฉี่หนู เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า เลปโตสไปรา ที่เกิดขึ้นได้ทั้งคนและสัตว์ โดยการติดเชื้อในคนจะมีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหาร น้ำดื่มที่ปนเปื้อนแบคทีเรียดังกล่าว รวมถึงการสัมผัส หรือได้รับแบคทีเรียทางรอยแผลที่ผิวหนัง
การป้องกันโรคฉี่หนู ทำได้ด้วยการสวมรองเท้าบูทยาวทุกครั้งเมื่อต้องลุยน้ำขัง หากไม่ได้ใส่ เมื่อลุยน้ำแล้วต้องรีบล้างมือ ล้างเท้าโดยเร็ว ล้างมือล้างเท้าให้สะอาดทุกครั้ง หากสัมผัสภาชนะบรรจุของเสียของสัตว์ พยายามอย่าตัดเล็บเท้าสั้นเกินไปจนเกิดบาดแผล เพราะเท้าเป็นตำแหน่งที่เชื้อโรคจากที่ต่างๆ สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย
แม้ว่าหน้าฝน จะมีโรคที่ต้องระวังมากมาย แต่เราก็สามารถป้องกันตนเองเบื้องต้นจากโรคเหล่านี้ได้ หากใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังอยู่เสมอ
ข้อมูลอ้างอิง: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, กรมการแพทย์, สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แคปชั่น
หน้าฝนนี้ กับ 6 โรคที่ต้องระวัง!! ตอนนี้ประเทศไทยของเรา ได้เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งหน้าฝนนี้ มีอะไรที่เราต้องระวังบ้าง มาดูกันเลย
1. โรคไข้เลือดออก
2. โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร
3. โรคมือเท้าปาก
4. โรคตาแดง
5. โรคผิวหนัง
6. โรคฉี่หนู
แม้ว่าหน้าฝน จะมีโรคที่ต้องระวังมากมาย แต่เราก็สามารถป้องกันตนเองเบื้องต้นจากโรคเหล่านี้ได้ หากใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังอยู่เสมอ
ข้อมูลอ้างอิง: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, กรมการแพทย์, สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
สนใจบริการติดต่อเรา :
📲 Tel: 06-5387-5499
✉️ Email : surveymarketthailand@gmail.com
🌐 Website : https://surveymarketthailand.co.th
📱 Facebook : https://www.facebook.com/Surveymarketth
คิดถึงงานวิจัย คิดถึง Survey Market Thailand