1.เลือกสถานที่ในการทดสอบผลิตภัณฑ์
การทดสอบผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะใช้สถานที่ที่เป็นศูนย์กลาง หรือที่บ้านของผู้บริโภค โดยจะใช้ตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางก็ต่อเมื่อต้องการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างไม่จำกัด และเมื่อเวลาหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ มีข้อจำกัด การทดสอบผลิตภัณฑ์ภายในบ้านมีจะดีกว่า เนื่องจากผู้ตอบสามารถทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ได้ตลอดเวลา
2.ตัดสินใจว่าคุณต้องการทดสอบผลิตภัณฑ์แบบ Blind Test หรือแบบ Branded
การทดสอบผลิตภัณฑ์คุณต้องบอกกับผู้บริโภคด้วยว่า ‘กำลังทำการทดสอบอะไร’ โดยสามารถใช้วิธีได้ 2 แบบ ดังต่อไปนี้ ถ้าหากต้องการทราบเกี่ยวกับประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ก็ไม่ควรเลือกทำการทดสอบแบบ Blind Test คือ การนำผลิตภัณฑ์มาให้ลูกค้าทดลอง โดยไม่บอกว่าเป็นสินค้าของแบรนด์ใด วิธีนี้จึงเป็นการทดสอบเพื่อเปรียบเทียบหรือการอ้างสิทธิ์ เพราะเป็นการขจัดผลกระทบจากการสร้างตราสินค้า และการโฆษณา ซึ่งหมายความว่าคุณจะรู้เท่าทันคู่แข่งจากมุมมองของผลิตภัณฑ์หรือไม่
แต่เมื่อเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์ที่ให้ทดสอบเป็นแบรนด์ใด ในกรณีทำเพื่อหาข้อคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษของผลิตภัณฑ์โดยรวม การทดสอบแบรนด์มักใช้สำหรับการลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ทำให้ผู้บริโภคปัจจุบันได้รับความแปลกแยก
3.ทำความเข้าใจที่เกี่ยวกับแบรนด์ของคุณด้วยการทดสอบแบบ Sensory หรือ Neuro
ทำความเข้าใจเพื่อเพิ่มเทคนิคการทดสอบทางประสาทสัมผัส (Sensory Testing) ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมได้ เกี่ยวกับเหตุผลที่ผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการมากกว่าคนอื่น ๆ และการทดสอบทางประสาทวิทยา (Neuroscience) ซึ่งเป็นการศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ที่เกิดจากการทำงานของสมอง สามารถอ่านแล้วตอบสนองทางอารมณ์ของผู้ตอบได้ วิธีนี้จึงเป็นการวัดการตอบสนองที่มีเหตุและผลได้อย่างดี
อ้างอิง : http://marketing-sciences.com/7-tips-effective-product-testing/